Description
" ONE OF THE MOST FAMOUS OBJECTS IN THE BRITISH MUSEUM "
🔎หินโรเซตตา (Rosetta Stone, ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 196 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นศิลาจารึกที่กองทหารฝรั่งเศสค้นพบที่ Fort Saint Julien, el -Rashid (Rosetta) ประเทศอียิปต์ในปี 1799 โดยมีลักษณะเป็นหินสีดำขนาดใหญ่ที่ถูกแกะสลักด้วยข้อความอักขระโบราณที่มีเนื้อหาเหมือนกันถึง 3 อักขระในหินก้อนเดียวกัน คือ อักขระไฮโรกลีฟ (Hieroglyphs) ซึ่งเป็นภาษาอียิปต์โบราณที่ใช้อย่างเป็นทางการและมักจะพบเห็นได้จากวรรณกรรมทางศาสนา, อักขระเดโมติค (Demotic) ภาษาอียิปต์โบราณที่ประชาชนใช้สื่อสารกันในชีวิตประจำวัน และสุดท้ายคือ อักขระกรีกโบราณ (Ancient Greek) โดยเหตุผลที่ต้องมีภาษากรีกอยู่ด้วยก็เนื่องมาจากในขณะนั้นชาวกรีกภายใต้การนำของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ได้เข้ามามีอำนาจและปกครองอียิปต์อยู่ จึงทำให้เวลาที่ต้องการจารึกสิ่งใดที่เป็นประกาศสำคัญ ทางการจะใช้การลงอักขระทั้ง 3 แบบ เพื่อเป็นการแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน
โดยการค้นพบ Rosetta Stone ถือได้ว่าเป็นการค้นพบจารึกที่มีภาษาอียิปต์โบราณเป็นครั้งแรก จึงทำให้เกิดความพยายามในการถอดรหัสความหมายของภาษาอียิปต์โบราณผ่านภาษากรีกแบบเทียบกันทีละตัว จนสามารถเข้าใจความหมายและถือเป็นกุญแจสำคัญนำไปสู่การวางรากฐานความรู้เกี่ยวกับภาษา, วัฒนธรรม ตลอดจนประวัติศาสตร์ของอียิปต์โบราณได้ในที่สุด
ทั้งนี้ Rosetta Stone ซึ่งเป็นลวดลายของหมีแบร์บริคที่สวยงามและมีมนต์เสน่ห์รุ่นนี้ ได้ถูกนำมาแสดงที่ British Museum ในกรุงลอนดอนตั้งแต่ภายหลังกองกำลังของอังกฤษได้เข้าไปปกป้องอิทธิพลของตนเองในอียิปต์ จนทำให้ทางฝรั่งเศสต้องยอมจำนนและส่งมอบวัตถุโบราณที่ค้นพบให้แก่อังกฤษในปี 1802 โดยในปัจจุบัน Rosetta Stone ก็ยังคงถูกแสดงอยู่ใน British Museum, Room 4 (The Egyptian Sculpture Gallery) และถือได้ว่าเป็นหนึ่งในวัตถุโบราณที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อีกด้วย
[ สำหรับใครที่สนใจและยังไม่มีโอกาสได้ไปชม Rosetta Stone ของจริงที่ British Museum ท่านสามารถเยี่ยมชมผ่าน Google Street View ได้ที่ --> https://artsandculture.google.com/streetview/british-museum/AwEp68JO4NECkQ?sv_lng=-0.1274712589983835&sv_lat=51.51918711209975&sv_h=214.93384660553824&sv_p=-11.782456865966608&sv_pid=03uM-NCdPTwEA1fuyubWWA&sv_z=1.1848897114206722 ]