Description
วิธีทาน : ทานครั้งละ 1 แคปซูล พร้อมมื้ออาหาร เช้า กลางวัน เย็น
1ซอง บรรจุ 100แคปซูล
สรรพคุณอบเชยจากงานวิจัย
อบเชยช่วยลดน้ำตาลในเลือด จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยหลายแห่งทำให้ทราบว่า อบเชยมีคุณสมบัติน่าสนใจหลายประการ ที่สำคัญคือ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมาเลเซียพบว่า อบเชยให้ผลดีต่อการรักษาเบาหวานชนิดที่ 2 (เป็นชนิดที่ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลิน) โดยผลการทดลองในห้องปัฎิบัติการพบว่า สารสกัดอบเชยเมื่ออยู่ในเซลล์ สามารถนำมาเสียนแบบอินซูลินได้ ซึ่งคนที่เป็นเบาหวานในกลุ่มนี้ เซ,จะสูญเสียความสามารถในการตอบสนองต่อฮอโมนชนิดนี้ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ
ทีมผู้วิจัยยืนยันด้วยว่า อบเชยสามารถรักษาโรคท้องร่วงและข้ออักเสบได้ เนื้องจากมีคุณสมบัติช่วยในการไหลเวียนโลหิต สมานแผล รักษาหนองและภูมิแพ้ อบเชยมีสารประกอบสำคัญคือ MHCP (Methyl Hydroxychalcone Polymer) มีคุณสมบัติคล้ายกับฮอร์โมนดินซูลิน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกับอินซูลินในเซลล์มากขึ้น มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถควบคุมระดับคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ให้อยู่ในภาวะปกติ
นอกจากนี้อบเชยยังช่วยลดความอ้วนจากรายงานการวิจัยในสหรัฐอเมริการะบุว่าความอ้วน มีส่วนยับยั้งไม่ให้อินซูลินทำหน้าที่เปลี่ยนน้ำตาลเป็นพลังงาน ทำให้น้ำตาลในเลือดสะสมในเลือดมาก แต่ในสาระสำคัญของอบเชยที่มีชื่อว่า ไฮดรอกซีซานโคน (Hydroxylchacone) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ระดับอินซูลินในเลือดและระดับคอเลสเตอรอลชนิดดีเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดการดูดซึมของคาร์โบไฮเดรตและใขมันในลำใส้เล็ก หรือทำหน้าที่การสกัดกั้นไม่ให้ร่างกายดึงเอาคาร์โบไฮเดรตและใขมันไปใช้ได้นั้นเอง โดยงานวิจัยนั้นเสนอให้รับประทานอบเชยเพื่อลดน้ำหนักโดยใช้ผงอบเชยขนาด 20 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ดังนั้นคนน้ำหนัก 50 กิโลกรัม จึงต้องใช้อบเชย 1 กรัม หรือวันละ 4 แคปซูล โดยแบ่งรับประทาน 4 เวลาหลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน
#รักษาเบาหวาน #ลดน้ำตาลในเลือด #ป้องกันการเป็นโรคเบาหวาน #ลดคอเลสเตอรอล #ลดความอ้วน #อบเชยแคปซูล #สมุนไพรรักษาเบาหวาน