VITAMIN C เต็มโมเลกุล pH 7-9 500 mg./capsule

หน้าที่หลักคือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจากการสันดาปของร่างกาย มลพิษ สิ่งแวดล้อม

* * ร่างกายสร้างเองไม่ได้ต้องกินเข้าไปพบมากในผักสด ดีที่สุดคือผักสดเก็บใหม่ไรสารเคมี * *

การขาดวิตามินซี

> ก่อปัญหาต่อดวงตามากมาย รวมทั้งการเกิดเลือดออกในเปลือกตา และเยื่อบุลูกตา

> เกิดอาการคันในผู้ที่มีปัญหาโรคผิวหนัง

ประโยชน์วิตามินซี

> ปกป้องเซลล์ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

> เสริมสุขภาพความแข็งแรงของเนื้อเยื่อในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับเส้นเอ็น

> เป็นวัตถุดิบในการส้รางคอลลาเจนที่ตับ

> ป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตา เช่น ต้อหิน ต้อกระจก ตาบอดเฉียบพลัน

> ช่วยบรรเทาความรุนแรง และระยะเวลาของการติดเชื้อไวรัส เช่น หวัด  * * หากเริ่มกินตั้งแต่แรก * *

> ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น เพราะ VitC ไปเสริมสร้างผนังเซลล์ ทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง และต่อต้านการอักเสบ

> ช่วยเพิ่มความต้านทานต่อโรคหัวใจ

> เพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมระดับคลอเลสเตอรอลในร่างกาย

> บรรเทาอาการแพ้ หอบหืด ไซนัส

> เป็นองค์ประกอบหลักของผนังเม็ดเลือดแดง ซึ่งช่วยในการต่อสู้และป้องกันไวรัสเจาะผนังเมือดเลือดแดง

> เพื่อประโยชน์สูงสุด ควรกิน Vit C ร่วมกับสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นเช่น VitE แคโรทีนอย ฟลาโวนอย แอสต้าแซนทิน

ข้อควรระวัง : การได้รับวิตามิน C ที่เป็น Ascorbic Acidมากกว่า 1000 mg อาจจะทำให้เกิดท้องเสีย และการทานตอนท้องว่างจะเกิดการระคายเคืองทางเดินอาหาร เนื่องจากความเป็นกรด อาจจะเกิดอาการท้องอืด เฟ้อ บางครั้งถึงขั้น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว และแน่นอนเนื่องจากวิตามิน C ขับทางปัสสาวะ จึงทำให้ปัสสาวะมีสภาพเป็นกรด ดังนั้นจึงเพิ่มโอกาสเกิดการตกตะกอนของผลึกต่างๆ กลายเป็นนิ่วในทางเดินปัสสาวะได้ ดังนั้นจึงแนะนำให้ทานวิตามิน C พร้อมดื่มน้ำมากๆ

แต่ Whole C ไม่มีผลกระทบ ที่กล่าวมานี้

วิธีรับประทาน

วันละ 1-2 เม็ด หลังอาหาร

ขนาดบรรจุ 30 แคปซุล

น้ำหนักสุทธิ 19.50 กรัม

เลขที่ อย 13-1-14363-5-0017