รูปเหมือนอาจารย์แขก ยาพม่าชั้นสูง “คุรุปัทถะมะ”
฿1,200

Description

รูปเหมือนอาจารย์แขก

ยาพม่าชั้นสูง “คุรุปัทถะมะ”

-------------------------------

ยาสายพม่า

อาจารย์แขกนับเป็นคนแรก ๆ

ที่นำเข้ามาสู่ประเทศไทย

และนับเป็นคนแรก ๆ ที่เข้าไปศึกษา

การสร้าง สายคัมภีร์ปถมังสิทธิ

ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีการแตกแขนงออกมา

มีหลายสาย หลายแขนงมาก

บางคนก็เรียกสายตัวเองว่า สายส่วยหยิ่นจ่อ

มีหลายสาย แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน

.

วิชาสายพม่า อาจารย์แขกจะไม่ค่อยสร้างขึ้นมา

เพราะมันมีเหตุ ปัจจัยหลายอย่าง

ถ้าจะสร้างให้ได้ผลจริง มันค่อนข้างทำยาก ถึงยากมาก

อาจารย์แขกจึงไม่ค่อยสร้างวัตถุมงคล แนวสายพม่า

.

ครั้งสุดท้ายที่อาจารย์แขกทำ

ตอนที่เดินทางไปที่เชียงตุง ทำพิธีที่วัดอินทร์บุปผาราม

อาจารย์แขกได้ทำยาพม่าขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น

ยาพุทธะ ยาพุทธะเจติยะ ยาสิวลี ยาสิวลีขี่แพะ ยาเสือ

ทำครั้งนี้นเป็นครั้งสุดท้าย ที่มีการทำยาพม่าขึ้นมา

แบบเป็นทางการ หมดแล้วหมดเลย เพราะไม่สามารถ

ทำเพิ่มได้ ฉนวนมวลสารแต่ละอย่างไม่เหมือนกัน

.

วัตถุมงคลวันนี้

เป็นยาพม่าที่ทำขึ้นมาใหม่

เหตุผลที่ทำขึ้นมาใหม่ เพราะมันเป็นไปตาม

กลไกลของหลักการเรียน "สายวิชาธัมมเจติยะ"

.

รูปยาพม่าวันนี้เป็นรูป "อาจารย์แขก"

ที่ใส่ชุดสย่า และสร้างจากยาพม่าล้วน ๆ

มีขนาดไม่ใหญ่มาก

.

มวลสารหลักในการทำ

ยาพม่าชุดนี้ชื่อ "คุรุปฐม"

คุรุ แปลว่า ครู

ปฐม แปลว่า เริ่มต้น

คือการเริ่มต้นในการสร้าง

รูปเคารพขององค์ครูขึ้นมา

.

ชนวลมวลสารหลัก คือยาครูทั้ง 10

เป็นยาครูทั้ง 10 ท่าน ที่มีชื่อ

โพโพอ่อง

โป๊ะมินข่อง

โป๊ะต่อเอ

โป๊ะต่อบิว

โป๊ะต่อปุ้ย

สัจจะยามิน

สังขวิชา

อ่องวิชา

มหาโอสถวิชา

เส่วิชา

(ฮู้ทั้ง 10 ในวิชาสายธัมมะเจติยสิทธิ)

.

สร้างจากยาสิทธิทั้ง 10 ประการ ของครูทั้ง 10

1 องค์ ได้ยาครูทั้ง 10 ชนิด

.

เหตุผลว่าทำไมต้องใส่ยาครูทั้ง 10 ลงไป

คุรุ คือ ครู ต้องเป็นปฐมเหตุแห่งครูทั้ง 10 ก่อน

คุรุปัทมะ คือครูทั้ง 10 รวมถึง

อาจารย์แขก เป็นคนที่ 11 ในรุ่นนี้

.

อาจารย์แขกจึงสร้างเป็นรูปอาจารย์แขก

โดยที่อาศัยแรงครูจากครูบาอาจารย์ทั้ง 10

ทำขึ้นมาเป็นรูปเคารพ อาจารย์แขก

ต้องหวังพึ่งพุทธคุณแห่งครูทั้ง 10 ท่าน

.

ที่สำคัญคือ

นอกจากใส่ยาครูทั้ง 10

เนื่องจากเป็น "ปฐม" คือ ขั้นที่ 1

ได้ใส่ยาหนักไปในเรื่องเมตตา

เมตตา คือ

ใส่ยาสุรสตรีชั้นสูง ทั้ง 25 ปาง

ใส่ยาสิวลี 16 ปาง

.

ชนวนมวลสารที่ใส่

ครั้งนี้ที่ทำขึ้นมา เก็บชนวนมวลสาร

คือขันธ์ครู ที่ผ่านการไหว้ครูมาแล้ว

ตั้งแต่ปี 52 จนถึงปี 62 รวม 10 ปี

เป็นผงจากขันธ์ครู เป็นผงดอกไม้

ที่เรียกว่า "พรรณประการ"

หรือปันปอง ของพม่า ครบ 10 ปี

.

พานครู 1 พาน ประกอบด้วย

สวยดอก คือ ดอกไม้

สวยพลู คือใบพลู

มีพลู มีดอกไม้

เขาเชื่อดอกไม้ 1 ดอก

แทนเทพเทวา 1 องค์

.

ขันธ์ครูมีทั้งหมด 3 ขันธ์

1. ขันธ์พิฆหนูราชา

2. ขันธ์ 108

3. ขันธ์ครูพยัคฆ์

(ขันธ์ที่อยู่ในสำนักอาจารย์แขก

เก็บมวลสารมาครบ 10 ปี)

.

รูปลักษณ์คือ ปัฐมะ ว่าด้วยการเดินธาตุ

รูปทรงจะเหมือนรูปบูชาไม้แกะของอาจารย์แขก

มีอุดพระบูชาข้างในทุกองค์

.

ที่สำคัญ ยาพม่ารุ่นนี้ เป็นยาครู ต้องปิดทอง

ปิดทองแท้ ปิดเฉพาะตัวด้านหน้าแต่ละองค์

.

เหตุผลที่ปิดทองด้านหน้า ไม่ปิดทั้งองค์

เพราะจะได้เห็นข้างหลังว่าเป็นยันต์

ของสายวิชาธัมมเจติยะ

.

ด้านหลัง

เป็นยันต์กำเนิด ประจำตัวอาจารย์แขก

ให้มันก่อเกิดขึ้นมา

ฝังพลอย ฝังแร่ เอาไว้

มีชื่ออาจารย์แขกด้านหลัง

อาจารย์แขก สร้างยาปฐม ขึ้นมาเป็นยาแรก

เพื่อสร้างยาชุดนี้ขึ้นมาเป็นยาแรก

เน้นหนักในเรื่อง บารมี อำนาจ

เมตตามหานิยม เพราะสุรสตรี สิวลี

เป็นทั้งโชคดี และโชคลาภ

.

มันบอกความเป็นตัวตนของอาจารย์แขกได้ดี

.

พกติดตัวได้ ต้องพกสูงมาก

ไม่มีข้อห้าม เพราะเราไม่ได้สักในตัว

.

คาถาบูชา

สัง กุ่ง ปะ มะ ยะ

พระเจ้าทั้ง 5

.

ที่ก้น รันเลข ทุกองค์

(เป็นครั้งแรก ที่ยาพม่ารันเลข)

.

คนที่ชอบยาพม่า

จะดีตรงที่ว่า เราไปไหน

เทพเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ฝ่ายดี

จะมาอวยพรเราอยู่เสมอ

ตลอดเวลา

.

บูชา องค์ละ 1000 บาท

...

รายได้ จะนำมาสร้างองค์ใหญ่

จะนำมาสร้างครูพม่าองค์ใหญ่ 10 องค์

ไว้ที่สำนักใหม่ หล่อเป็นโลหะ

.

ใครที่มีความเชื่อ

ความศรัทธาในสายวิชาธัมมเจติยะ

เปรียบประดุจว่าคุณได้บูชาครูในการที่เอารายได้

ไปหล่อองค์ใหญ่

.

ในประเทศไทย อาจารย์แขก

คือผู้ที่บัญญัติ "ธัมมเจดีย์สิทธิ"

ที่มีครูทั้ง 10 องค์ อย่างเป็นทางการ

และได้นำมาเผยแพร่เป็นคนแรก

.

อาจารย์แขกไปเรียน "สายธัมมเจติยะสิทธิ"

พูดสั้น ๆ ในภาษาไทย คือ "สายธัมมเจดีย์"

.

บูรพาจารย์ในสมัยอดีต

คือเป็นผู้ที่สร้างวิชาขึ้นมา

สำเร็จด้วยตัวเองได้ทั้งหมด ทั้ง 10 คณาจารย์

ตั้งแต่ "โป๊ะมินข่อง" โป๊ะโป๊ะอ่อง"

.

โป๊ะมินข่อง และโป๊ะโป๊ะอ่อง

ทุกคนจะรู้จักมากเพราะในพม่าปัจจุบัน

บูชา 2 ท่านนี้ ประดุจเป็นเทพเจ้า

ที่ยังมีชีวิตอยู่ เหมือน

"พระครูเทพโลกอุดร"

ในสายของไทยเรา

.

และในความเชื่อในสายปถมัง

ก็คือสายธัมมเจติยะสิทธิ

หรือสายนิกายธัมมเจดีย์

ก็ยังมีความเชื่อว่าบูรพาจารย์

ทั้ง 2 ท่านนี้ ก็ยังมีชีวิตอยู่

.

เนื่องจากมีหลักฐานยืนยัน

ว่าตอนที่พายุนาร์กิส ลงเมืองย่างกุ้ง

ได้ครูบาอาจารย์ทั้งสองท่าน

คือโป๊ะโป๊ะอ่อง เขาเชื่อว่า

ได้ออกมาบอกนายพลในสมัยนั้น

ให้ทำการย้ายเมืองจากย่างกุ้ง

ไปมัณฑะเลย์ ก่อนล่วงหน้า 1 ปี

เพราะจะมีพายุกระหน่ำ ลงมา

ในเมืองย่างกุ้ง ทำให้ประชาชน

บาดเจ็บ ล้มตาย เป็นจำนวนมาก

.

จากการที่ท่านออกมาสั่ง และนายพล

ได้ปฏิบัติตาม ทำให้เห็นว่าพายุนาร์กิส

ที่ลงที่ย่างกุ้งส่งผลน้อยมาก กับประชาชน

ของชาวพม่าที่อยู่อาศัย

.

แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ปัจจุบันนี้หลากหลาย

ในประเทศไทยก็คือ ของเก่า ยา

เครื่องรางของขลัง ในเมืองย่างกุ้งทั้งหมด

ที่มีการย้ายเมืองหลวง ถูกนำเข้ามาสู่

ฝั่งประเทศไทยเป็นจำนวนมาก

.

และเกิดการค้นคว้าจากครูบาอาจารย์ของไทย

หลาย ๆ กลุ่ม หลาย ๆ สำนัก จนตั้งสำนัก

ของตัวเองตามแต่ที่ใครจะคิดได้

.

แต่วิชาสายธัมมเจติยะสิทธิ

มีครูทั้งหมด 10 ท่าน

มีคัมภีร์หลักทั้งหมด 10 เล่ม

.

นิกายธัมมเจติยะสิทธิ และมีครู 10 ท่าน

ให้คุณรู้ไว้เลยในประเทศไทย

"อาจารย์แขก"

คือผู้นำมาเผยแพร่คนแรก

.

ครู 10 ท่าน ไม่ว่าอยู่ในคัมภีร์เล่มใดก็แล้วแต่

ไม่มีระบุบอกถึงบางท่าน ในครูบาอาจารย์

ทั้ง 10 ท่านนี้ แต่ชื่อของชื่อครูบาอาจารย์

ทั้ง 10 ท่าน มีอยู่ในศิลาจารึกของเจดีย์

ที่มียาพม่า แตกออกมาในบางกรุ

แล้วครบทั้ง 10 ท่าน

.

จนได้ประวัติความเป็นมาเป็นไป

ของสายธัมมเจติยสิทธิ

ตอนที่ เจดีย์รูปหนึ่งที่เมืองยอแตก

และมีแผ่นลานทองออกมา

บอกถึงชื่อครูบาอาจารย์

บอกถึงยุค บอกถึงประวัติ

ความเป็นมาเป็นไปของนิกาย

ธัมมเจติยสิทธิ อย่างเป็นทางการขึ้นมา

.

รูปพ่อครูทั้ง 10 ถูกวาดโดยช่างที่ จังหวัดยะลา

โดยคำบอกเล่าจากอาจารย์แขกทั้งหมด

.

ครูทั้ง 10 ท่านที่ถูกนำมาเรียงกัน

ทั้ง 10 องค์ ที่มีการเผยแพร่ในโลกออนไลน์

รูปใบนั้น "วาดโดยอาจารย์แขก"

.

โดยอาจารย์แขกขึ้นโครง รูปร่าง

แล้วให้ช่างที่ จ.ยะลา ชื่อ "ช่างไผ่"

เป็นคนวาด เก็บรายละเอียดทั้งหมด

.

เพราะฉะนั้น..

ถ้าถามว่าคนที่บัญญัติ ธัมมเจดีย์สิทธิ

ที่มีครูทั้ง 10 องค์ อย่างเป็นทางการ

พูดได้เต็มปากว่า "คืออาจารย์แขก"

.

ส่วนตัวอาจารย์แขก ได้บวช

ในวิชาธัมมเจติยสิทธิ อย่างเป็นทางการ

พร้อมกับมีชื่อ หรือฉายา ออกมาแบบชัดเจน

มีการสืบสายวิชากันอย่างชัดเจนที่สุด

.

อาจารย์แขก ไม่ค่อยได้นำวิชาสายพม่า

มาเผยแพร่ ด้วยมูลเหตุที่ว่า

ปัจจุบันมีบุคคล หลายบุคคล นำมาเผยแพร่

และไม่ตรงกับอาจารย์แขก ไม่ตรงกับความรู้

ที่อาจารย์แขกรู้ อาจารย์จึงได้เก็บความรู้

ไว้กับตนเอง โดยที่ไม่ออกไปเผยแพร่ใคร

.

ถ้าคุณสืบค้นเข้าไปให้ลึก คุณจะรู้ว่า

วิชาธัมมเจติยสิทธิ หรือยาพม่า

ที่พวกคุณใช้กันทุกวันนี้

คนที่นำมาเผยแพร่หลัก ๆ คือใคร

.

อาจารย์แขกนำมาเผยแพร่

ก็ไม่ได้นำมาบอกในโลกออนไลน์

ให้คนรุ่นใหม่ เข้าใจ

.

อยากให้คุณจำไว้ว่า คนที่นำมาเผยแพร่เป็นคนไทย

คุณไม่รู้ขนบธรรมเนียมประเพณีเขาเลย

1. คุณไม่รู้ภาษา

2. คุณไม่รู้ตัวหนังสือ

3. คุณไม่รู้ซึ่งศาสตร์พิธีกรรม

แม้กระทั่งของบางชนิดที่ใช้ในการไหว้ครู

บางอย่างคุณก็ไม่รู้

.

จากที่อาจารย์เห็นในโลกออนไลน์ปัจจุบัน

ของที่ใช้ไหว้ครู

คุณถอดมาจากการไหว้ "นัตโบโบยี"

ที่พม่า ก็คือเป็นของที่อยู่ในขันธ์ครู

ของการไหว้เทพโบโบยี

(เทพทันใจ ที่พม่า) ไม่ว่าจะเป็นหมาก

ไม่ว่าจะเป็นกล้วย

ที่คุณนำมาบูชา มันเป็นการบูชาเทพของพม่า

------------------------------

------------------------------

ประวัติของผงครูทั้ง 10

.

ผงครูทั้ง 10 อยู่ในเจดีย์แตกมาจากเมืองยอง

พ.ศ. 1116 (1,419 ปี) ได้ผงเก่าทั้งหมด

ของครูทั้ง 10 ทั้งโหลอยู่กับอาจารย์แขก

.

การใส่ผงมีอัตราส่วนในการใส่

จะมีตัวตวงของพม่า เขาเรียก "จ้อย"

อัตราตวงเรียกเป็นจ้อย 1 จ้อย

สามารถสร้างได้ 48,000 องค์

.

ยานี้เป็นหนึ่งในสิบ ยังไม่รวมสุรสตรี ไม่รวมสิวลี

.

ยานี้ชื่อยา "สัตจะะยามิน"

.

เหตุผลที่ได้ยานี้มา เพราะอาจารย์แขก

บูรณเจดีย์ลูกนี้ไป สามล้านแปด

ถึงได้ยาข้างในมา เป็นยาสมบูรณ์อยู่ 5 เม็ด

อยู่ครบทั้ง 5 เม็ด ที่เหลือเป็นผงทั้งหมด

.

ครูบาอาจารย์นำผงทั้งหมด มีศิลาจารีก

มีแผ่นลานทอง มีแผ่นลานเงิน ของเมืองยอง

วิธีการบอกถึงประวัติที่มา พ.ศ.

อาจารย์ได้สร้างขึ้นมาใหม่ 108

และบรรจุกลับเข้าไปตอนที่บูรณะเจดีย์

(นำผงที่แตกหักนำมารวบรวม พร้อมกับหา

ชนวนมวลสารในตำราใหม่ 108

มาผสมรวมกันทั้งหมด

และบรรจุในตลับเงิน 108

และสร้างเพิ่มอีก 1,000 ใส่ในโถแก้ว

เท่ากับมี 1,000 กับ 108 ของเก่าที่ผสมใหม่แล้ว

.

ด้านในใส่พระธาตุ ยาพม่าชั้นสูง

ข้างในจะมีสารีริกธาตุ

บรรจุเข้าไป

.

ส่วนยา 1,000 ไม่มีพระธาตุ และบรรจุเข้าไป

.

และผงที่เหลือจากการทำยา 1,000 อยู่ที่อาจารย์แขก

ทั้งหมด จึงได้นำมาเป็นมวลสาร จึงนับเป็น 1 อาจารย์

ยานี้นับเป็นยาสัจจะยามิน

.

รวมถึงหล่อพระเนื้อนวะโลหะ

บรรจุเข้าไปด้วยในแต่ละทิศ

วิชาสายธัมมเจติยะ เป็นแบบนี้

.

ยาที่นำมาทำ เป็น 1 ใน 10 ยังไม่ใช่ทั้งหมด

.

ไม่สามารถตีเป็นเงินได้

เพราะผงที่นำมาทำยาพม่ากลับเข้าไป

ในเจดีย์ยาสัตตะเจดีย์กลับเข้าไป เช่นอาจารย์แขก

สำเร็จวิชาแมลงภู่ กับสุรสตรี ของพม่า

นำผงยาแมลงภู่กับสุรสตรีมาร่วมสร้างกับเขา

ผงที่ทำมาทั้งชีวิตตีเป็นตังค์ไม่ได้

และครูบาอาจารย์ที่มาร่วมกันทำร้อยกว่าอาจารย์

นำมารวมกัน


.

พระชุดนี้ไม่มีการนำมาทำใหม่

.

ถือเป็นชนวนมวลสารที่โบราณ

เป็นยาโบราณที่ถูกนำมาสร้างใหม่

ให้เป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่

ของสายวิชาธัมมเจติยะ

----------------------------