Description
SET 10 5G 6 SIM Bonding ชุดอินเตอร์เน็ตนอกสถานที่ผ่านเทคโนโลยี 5G แบบ 6 SIM Bonding แพ็คเน็ต Unlimited
->> เหมาะสำหรับใช้งาน Livestream Conference Metaverse Online Event ทุกรูปแบบ หรือใช้งาน Internet งานสัมมนา workshop นอกสถานที่
->> เหมาะสำหรับใช้งานพร้อมกัน 10-500 Devices หากมากกว่าต้องเพิ่มอินเตอร์เน็ตด้วยการมี 5G Internet เพิ่มขึ้นในเซต รองรับสูงสุด 13 ซิม
->> เหมาะสำหรับใช้งานพร้อมกัน (งานไลฟ์สตรีมมิ่งหรือคอนฟีเรนท์ ไม่เกิน 50 อุปกรณ์)
->>เหมาะสำหรับใช้งานอินเตอร์เน็ตทั่วไป ( WiFi Event WiFi สัมมนานอกสถานที่ แชร์ใช้งานไม่เกิน 500-5000 ผู้ใช้งานพร้อมกัน)
->> ระบบ ใช้ 6 SIM 5G ต่างค่าย AIS 5G 3 SIM , TRUE 5G 3 SIM Unlimited ทุกซิม เพื่อเพิ่มความสเถียร และเป็นระบบสำรองฉุกเฉินแบล็กอัพ
->> ระบบรองรับสูงสุด 13 SIM หากต้องการเพิ่มสปีด มากกว่า 6 SIM + เพิ่ม 5G Router Internet Sim ล่ะ 2,000 บาท /ต่อตัว/ต่อวัน
(1 ซิม สปีด 50-200 Mbps หรือมากกว่าแล้วแต่สัญญาณหน้างานในแต่ล่ะพื้นที่)
->> รองรับแบนด์วิธสปีดเน็ตผ่านเทคโนโลยี Speed Fusion Bonding 50-450 Mbps สำหรับงาน Livestream ถ่ายทอดสด หรือ Online Event Applications ZOOM Microsoft Team Webex นอกสถานที่
->> รองรับแบนด์วิธสปีดผ่านเทคโนโลยี Loadbalance Internet 50-1000 Mbps สำหรับการใช้งาน Internet ทั่วไป
ด้วยเทคโนโลยี 3 คีย์ฟีเจอร์ หลัก SD-WAN Peplink บริการของ ITPRO
จะผ่านระบบ VPN Bonding On Cloud Fusionhub Singapore
(โดยจะใช้ซิม 5G ต่างเครือข่าย AIS+ TRUE ในการรวมสปีดเน็ตสู่คลาวด์เพื่อเพิ่มความสเถียร)
สำหรับงานไลฟ์สตรีมนอกสถานที่ และการจัดประชุมสัมมนาออนไลน์นอกสถานที่ ที่ต้องการความสเถียรสูงสุด
1.Speedfusion Bonding
ช่วยรวมแบนด์วิธทุกซิม 5G ที่เชื่อมต่อ ทำให้มีแบนด์วิธ ความเร็วอินเตอร์เน็ตมากขึ้น ในการใช้ขับเคลื่อน เปรียบเสมือนมีเครื่องยนต์ไอพ่นหลายตัว ทำงานพร้อมกัน ทำให้มีแบนด์วิธในการไลฟ์สตรีม หรือคอนฟีเรนท์ ที่ตัองมีการใช้อินเตอร์เน็ตแบบต่อเนื่อง ตลอดเวลา ให้มีความสเถียรมากขึ้น หากใช้งานหลายเครื่องพร้อมกัน ก็จะใช้งานโดยไม่รู้สึกช้า เพราะมีทางออกอินเตอร์เน็ต หลายซิม รวมเป็นเส้นเดียวกัน ไม่คอขวดที่ซิมใด ซิมนึง เหมือนกับการใช้ เราเตอร์ 5G WiFi แบบซิมเดียว ที่รับโหลดทุกอย่างและแชร์ผ่านซิมเดียว มีความสเถียรภาพเทียบเท่า MPLS หรือ Leased Line โดยมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า เพราะสามารถรองรับรวมได้ทุกการเชื่อมต่อผ่านสัญญาณ 5G/4G Cellular , WiFi WAN , Fiber Optic , ดาวเทียม Starlink หากประเทศไทยรองรับ
2.Speedfusion Hot Failover
สลับลิงค์ทันทีแบบฉุกเฉินได้โดยไม่รู้สึกว่าลิงค์ใดลิงค์นึงหายไป เนื่องจากรับสัญญาณได้ไม่ดีในที่อับสัญญาณ โดยไม่สะดุด ราบลื่น มีความต่อเนื่องในการรับส่งข้อมูล
3.Speedfusion Wan Smoothing
ช่วยเติมแบนด์วิธจากทุกซิม 5G ที่เชื่อมต่ออยู่หากมีบางซิมสัญญาณดรอป ทำให้เฟรมเรทตก ภาพแตกยับ ไม่ชัด กระตุก เนื่องจากมีการเคลื่อนไหวสูง เช่นเดินไลฟ์หรือ ใช้งานไลฟ์ระหว่างขับรถ หรือใช้งานนอกสถานที่ ที่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต บางซิม มีสัญญาณน้อยเพราะอยู่ในจุดอับสัญญาณ หรือมีคนใช้งานเสาสัญญาณ 4G/5G ในพื้นที่หนาแน่น จะตอบโจทย์ตรงจุดนี้
4.และยังมีเทคโนโลยีการรวมแบนด์วิธ Speedfusion Cloud เทคโนโลยีขั้นสูงในการส่งทุกแพคเกจ ตรงสู่คลาวด์ ให้ไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อสื่อสารผ่านคลาวด์ Microsoft Team , Zoom , Skype , Webex Facebook, Youtube ทำให้ลดการสูญเสียแพ็คเกจระหว่างทาง ทำให้การติดต่อระหว่าง Cilent - Server มีความสเถียรมากขึ้น มีค่า Latency Jitter และ Packet Loss ที่ต่ำกว่าการใช้อินเตอร์เน็ตแบบทั่วไป
และ 8 อัลกอริธึมในการจัดการ Loadbalance ทำให้มีทางออกอินเตอร์เน็ต กระจายพร้อมกันหลายช่องทางมากขึ้น ซึ่งทำให้เร็วกว่าการใช้ซิมเดียว ที่มีผู้ใช้งานพร้อมกันมาก แต่มีทางออกอินเตอร์เน็ตแค่ช่องทางเดียว และเวลาอินเตอร์เน็ตเส้นใด เส้นนึงล่ม จะยังสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะมีหลายซิมที่เชื่อมต่อ เป็นลิงค์ สำรองฉุกเฉิน แบล็กอัพ
สำหรับงาน WiFi Internet Event ที่จัดนอกสถานที่ ที่ไม่มีอินเตอร์เน็ตแบบ Lan Line ด้วยการใช้เทคโนโลยี 5G Loadbalance จาก Peplink มาช่วยเพิ่มความสเถียร และการจัดการ Loadbalance หลายรูปแบบได้ ด้วย 8 อัลกอลิธึ่ม ในการจัดการ Loadbalance
1.Weighted Balance อุปกรณ์สามารถจัดการ Traffic และจะกระจาย Traffic ไปยังแต่ล่ะ WAN ตามอัตราส่วนที่กำหนดไว้ได้ (เช่นให้ออกอินเตอร์เน็ตผ่าน Ais 70% True 20% Dtac 10% เป็นต้น
2.Priority อุปกรณ์สามารถกำหนด Traffic ขาออก WAN บนสุด เมื่อ WAN นั้น Down ก็จะดีดมา WAN ถัดไปตามที่่เรากำหนดไว้
(เช่น กรณ๊หน้างาน Ais สัญญาณได้สปีดดีสุด ต้องการให้อินเตอร์เน็ตใช้งานผ่าน AIS ก่อน ก็ตั้ง AIS เป็น Priority 1 หากลิงค์ดาวน์ ให้ดีดมา WAN 2 ซึ่ง TRUE เป็น Priority 2 ลำดับถัดไป
และยังสามารถแบ่งเครือข่ายได้ เช่นวงแลนนี้ ให้ออก AIS ก่อนและ True สำรอง แต่อีกวงแลน ให้ออก True ก่อน และ Ais สำรอง เพื่อให้ต่างวงแลนแยกอินเตอร์เน็ตกัน เพื่อให้ได้ความเร็วสปีด ที่ดีขึ้นลดการแชร์ ด้วยการแบ่งไปออกอินเตอร์เน็ตต่างเครือข่ายกัน
3.Enforced อุปกรณ์สามารถบังคับให้ Traffic ขาออก WAN ใด WAN หนึ่งได้ จะการทำงานเหมือน อัลกอลิธึ่่ม Priority แต่จะต่างกันคือ แบบนี้เป็นการบีบบังคับเลย ว่าจะให้วงแลนนี้ไปออกผ่านเครือข่ายใด เครือข่ายนึงเท่านั้น ไม่ให้ไปออกอินเตอร์เน็ตผ่านซิมอื่น (โซลูชั้่นนี้จะใช้ สำหรับบางแอพพลิเคชั่น เช่นระบบ voip erp payment gateway ที่ต้องการให้ออกอินเตอร์เน็ตผ่าน MPLS หรือ Leaedline , Fiber Optic เท่านั้นถึงจะสื่อสารติดต่อระหว่างเครื่องลูกข่ายและเครื่องแม่ข่าย server ส่วนกลางได้ เป็นต้น
4.Overflow อุปกรณ์สามารถกำหนด Traffic ขาออก WAN เป็นแบบ Priority และสามารถเช็ค Bandwidth ที่ใช้ได้ถ้าเกิด WAN แรกที่เรากำหนดให้ออกมีการใช้งานเต็มหรือมีการใช้อินเตอร์เน็ตหนาแน่น ก็จะวิ่งไป WAN อื่นถัดไปตามที่เรากำหนด
5.Persistence อุปกรณ์สามารถกำหนด Traffic ให้คง Session แบบ By Source หรือ By Destination จนกว่าการใช้งาน แอพพลิเคชั่นนั้นจะสิ้นสุดการทำงานได้ ถึงจะย้ายไปทำงาน WAN อื่นๆ (เหมาะสมกับการใช้งาน Internet banking , Web Https หรือเว็บที่มีระบบรักษาความปลอดภัย ระบบที่ช่วยให้การใช้งานผ่านระบบ Loadbalance อินเตอร์เน็ตให้ไม่มีการสลับไปสลับมาหากมีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตหลายช่องทาง ก็จะยังคง session จนกว่าจะใช้งานแอพพลิเคชั่นนั้นเสร็จ)
6.Least Used อุปกรณ์สามารถเช็ค Traffic ขาออก ของแต่ล่ะ WAN ที่เชื่อมต่อโดยระบบจะเลือก WAN ที่มีการใช้งาน Bandwidth น้อย ในการออกสู่ Internet เพื่อรวดเร็วในการใช้งา่น
7.Lowest Latency อุปกรณ์สามารถเช็ค Traffic ขาออก ค่า Latency หรือ (PING) ของแต่ล่ะ WAN ที่เชื่อมต่อโดยระบบจะเลือก WAN ที่มีค่า latency ต่ำสุดก่อน ในการออกสู่ Internet เพื่อรวดเร็วในการใช้งา่น ลดการหน่วงของการใช้งานบางแอพพลิเคชั่น เช่น สตรีมมิ่ง , งานแข่งขันเกมส์ หรือระบบ VOIP ติดต่อสื่อสารผ่านเสียง ระบบ Conference ที่ต้องการค่า latencyที่ตำที่สุดส่วนการใช้งานแอพอื่นๆที่ใช้งานอินเตอร์เน็ตทั่วไป ให้ออกอินเตอร์เน็ตผ่าน Loadbalance ปรกติ
8.Fastest Response Time เป็นการตรวจสอบเวลาการตอบสนองในแต่ล่ะ Session ทุก WAN เป็นอัลกอลิธึ่ม Fasttest Response โดยจะเชคทุกเซสชั่นเลย ว่าอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่ออยู่ลิงค์ไหน สามารถติดต่อเว็บไซต์ https ทีกำหนดได้เร็วสุด
(เหมาะกับการใช้งานในการติดต่อสื่อสารระบบหน้าเว็บลงทะเบียน หรือระบบที่ต้องเข้าผ่านหน้าเว็บไซต์ที่กำหนด ให้ระบบเลือกโดยอัตโนมัติ ให้ติดต่อ server ผ่านหน้าเว็บเร็วที่สุด)
Options เสริมให้มีเจ้าหน้าที่เข้าติดตั้งอุปกรณ์ 5G BONDING + WIFI AP หน้างาน เฉพาะในเขตกทม.ปริมณฑล
ค่าบริการติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตและ WiFi 1-2 จุด ค่าบริการ 3,000 บาท ต่อเซต ในเขตกทม.
ค่าบริการติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตและ WiFi 3-4 จุด ค่าบริการ 6,000 บาท ต่อเซต ในเขตกทม.
ค่าบริการติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตและ WiFi 5-6 จุด ค่าบริการ 8,000 บาท ต่อเซต ในเขตกทม.
ค่าบริการติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตและ WiFi 7-10 จุด ค่าบริการ 10,000 บาท ต่อเซต ในเขตกทม.
หมายเหตุ : ค่าบริการในเซตยังไม่รวม WiFi กรณีต้องการใช้งานรูปแบบ WiFi งานสัมมนา (Options+เพิ่มจุดล่ะ 1,000 บาท ต่องาน)
สำหรับเซตนี้ ถ้าผู้ใช้งานไม่เกิน 100-200 คนพร้อมกัน ใช้ WiFi 1-2 จุด (1,000-2,000 บาท)
สำหรับเซตนี้ ถ้าผู้ใช้งานไม่เกิน 300-400 คนพร้อมกัน ใช้ WiFi 3-4 จุด (3,000-4,000 บาท)
สำหรับเซตนี้ ถ้าผู้ใช้งานไม่เกิน 500-600 คนพร้อมกัน ใช้ WiFi 5-6 จุด (5,000-6,000 บาท)
สำหรับเซตนี้ ถ้าผู้ใช้งานไม่เกิน 700-1000 คนพร้อมกัน ใช้ WiFi 7-10 จุด (7,000-10,000 บาท)
ค่าบริการในเซตยังไม่รวมสายแลนใดๆ กรณีต้องการให้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านสายแลน (Options +เพิ่มเดินสายจุดล่ะ 300 บาท หรือเช่าเฉพาะสายค่าบริการเส้นล่ะ 100 บาท )
หลังจากทีมงานเข้าติดตั้งระบบ เมื่อระบบออนไลน์ ทางบริษัทให้บริการผ่าน Helpdesk IT Services Support ดูแลมอนิเตอร์ระบบตลอดการใช้งาน 24/7 โดยผู้เชียวชาญที่มี Certified รับรองจากผลิตภัณฑ์ Peplink จากระยะไกลด้วยเทคโนโลยี Cloud Management และ Line Call Support
ค่าบริการในเซตยังไม่รวม IT Engineer กรณีต้องการให้มี IT Engineer Support Standbye หน้างานในวันงาน (Options นี้ +เพิ่ม 3,000 บาท ต่อคิว ต่อวัน 1 คิว Standbye ไม่เกิน 8 ชม. ต่อวัน) (สงวนสิทธิ์ให้บริการ Options บริการเสริมนี้ ในรูปแบบ WiFi Event งานประชุมสัมมนาขนาดใหญ่ตั้งแต่ 300-1,000 ผู้ใช้งานขึ้นไปเท่านั้น)