Description
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีน้ำมันปลาบริสุทธิ์จากธรรมชาติอุดมด้วยกรดโอเมก้า 3 ซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพ ประกอบไปด้วย
- กรดไอโคซาเพนตาอีโนอิค หรือ อีพีเอ (Eicosapentaenoic Acid; EPA)
- กรดโดโคซาเฮกอิโนอิค หรือ ดีเอชเอ (Docosahexaenoic Acid; DHA)
- กรดไขมันโอเมก้า 3
- กรดไขมันโอเมก้า 6 คือสารตั้งต้นของสารกลุ่มไอโคซานอยด์ (Eicosanoids) เช่น พรอสตาแกลนดิน (Prostagladin), ทรอมบ็อกเซน (Tromboxane), และลิวโคไทรอีน (Leucotriene)
สารเหล่านี้มีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนที่ช่วยให้ร่ายกายของเราทำงานได้ตามปกติ การรักษาปริมาณกรดไขมันโอเมก้า 3 และ โอเมก้า 6 ที่บริโภคเข้าไปให้สมดุลนั้นสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากสารทั้งสองจะช่วยกันส่งเสริมสุขภาพให้สมบูรณ์ แม้ว่าผลดีของกรดไขมันโอเมก้า 3 ต่อสุขภาพชัดเจนเช่นนี้ แต่จากการสำรวจการบริโภคอาหารพบว่าคนส่วนใหญ่ยังได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 จากอาหารไม่เพียงพอ ในปี พ.ศ.2545
สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกาได้ประกาศแนวทางการรับประทานปลา และน้ำมันปลา เนื่องจากผลการศึกษาเชิงระบาดวิทยาในประชากรกลุ่มใหญ่ และการศึกษาแบบสุ่มมีกลุ่มควบคุมแสดงให้เห็นว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 ในน้ำมันปลาช่วยให้ระบบหลอดเลือด และหัวใจแข็งแรง นอกจากประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจแล้ว งานวิจัยยังพบว่ากรดไขมันโอเมก้า 3 ในรูปของผลิตภัณฑ์น้ำมันปลานั้นมีประโยชน์ต่อข้อต่อ ช่วยส่งเสริมการพัฒนาและการทำงานของระบบประสาท และบำรุงกระดูกให้แข็งแรง งานวิจัยหลายงานชี้ชัดว่าการรับประทานนำ้มันปลาทำให้ร่ายกายตอบสนองต่อการอักเสียบได้เป็นปกติ และนอกจากนี้ ดีเอชเอยังเป็นโครงสร้างที่สำคัญของจอประสาทตา จึงมีความสำคัญต่อพัฒนาการของดวงตา การพัฒนาการช่วงวัยเด็ก สตรีในวัยเจริญพันธุ์ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ หรืออาจจะตั้งครรภ์ ต้องได้รับโภชนาการที่เพียงพอ เพื่อให้ทารกมีพัฒนาการที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และนั่นก็รวมถึงการบริโภคกรดไขมันโอเมก้า 3 ให้เพียงพอด้วย ดีเอชเอคือหนึ่งในไขมันที่พบมากในเซลล์ประสาทของตัวอ่อนในครรภ์และสมองของทารก งานวิจัยแสดงให้เห็นว่ากรดไขมันโอเมก้า 3 มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาการของสมองทั้งในขณะอยูในภรรภ์ และอยู่ในช่วงวัยเด็ก ปัจจุบันนมพงสำหรับทารกหลายสูตรมีการเติมดีเอชเอเพื่อส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาการของระบบประสาท