Description
สัมผัสประสบการณ์นักล่ากับ 𝗛𝗼𝘂𝗻𝗱 𝗢𝗿𝗶𝗴𝗶𝗻 𝗪𝗵𝗼𝗹𝗲 𝗣𝗿𝗲𝘆 𝗗𝗶𝗲𝘁 สูตร New Zealand White™ เนื้อกระต่ายสายพันธุ์นิวซีแลนด์ไวท์ 100% ที่ถูกขนานนามว่าเป็นโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพที่สุดสำหรับสุนัข อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารฉบับเข้มข้น ส่งเสริมพัฒนาการทางด้านกล้ามเนื้อ ให้กรดอิมิโนจำเป็นครบถ้วน และยังเป็นแหล่ง Vitamin B และ E ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ต่อต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันการอักเสบได้อย่างดีเยี่ยม
เลขทะเบียนอาหารสัตว์: 0107660720
- พัฒนาสูตรโดยนักโภชนาการอาหารสัตว์เลี้ยงที่ผ่านการ
- รับรองโดย North American Veterinary Institute
- โภชนาการครบถ้วนและสมดุลตามหลัก AAFCO/NRC/FEDIAF
- ผ่านการทดสอบผ่านห้องปฏิบัตการ (Lab Tested)
- สะอาด ปลอดภัย ปราศจากแบคทีเรียร้ายอย่าง Salmonella
Ingredients: fresh whole New Zealand White rabbit, fresh rabbit giblets (heart, liver, gizzard, kidney, spleen), organic spinach, kale, celery, zucchini, asparagus, broccoli, carrots, red cabbage, cauliflower, butternut squash, bell pepper, sweet potato, raspberry, blueberry, strawberry, cranberry, goji berry, organic extra virgin cold-pressed coconut oil, organic apple cider vinegar, organic olive oil, turmeric, rosemary, ground flaxseed
FAQs (ถามมา-ตอบไป โดยนักโภชนาการอาหารสัตว์เลี้ยง)
เปลี่ยนสัตว์เลี้ยงให้มาทานอาหาร BARF ได้อย่างไรบ้าง?
RAPID SWITCH: เปลี่ยนทานทันที 100% ตั้งแต่มื้อแรก ซึ่งเป็นวิธียอดนิยมที่เราแนะนำและได้ผลที่สุด โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกที่จะทำ Intermittent Fasting (IF) หรือฟาสติ้งกับสัตว์เลี้ยงเป็นเวลา 12-24 ชั่วโมงหลังอาหารมื้อสุดท้าย ก่อนให้อาหาร BARF ก็ได้ เพื่อทิ้งเวลาให้สัตว์เลี้ยงขับถ่ายกากหรือของเสียจากอาหารเก่าออกให้หมดก่อน ซึ่งถือเป็นการดีท็อกซ์อีกรูปแบบหนึ่งของสัตว์เลี้ยงนั่นเอง
SLOW SWITCH: หากสัตว์เลี้ยงของคุณมีประวัติการเปลี่ยนอาหารยาก มีประวัติระบบทางเดินอาหารอ่อนแอ หรือมีอายุที่มากแล้ว เราขอแนะนำให้ใช้วิธีการเปลี่ยนอาหารอย่างช้าๆ โดยทำการผสมอาหาร BARF กับอาหารเก่าก่อนและค่อยๆ เพิ่มสัดส่วนอาหาร BARF ขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลาและความเหมาะสม เพื่อให้สัตว์เลี้ยงของคุณทำความคุ้นเคยกับอาหารใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป
ละลายอาหาร BARF ให้พร้อมทานได้อย่างไร?
มี 2 วิธีง่ายๆ ที่คุณสามารถจัดเตรียมมื้ออาหาร BARF ได้อย่างรวดเร็ว
- วิธีที่ 1 นำออกจากช่องแช่แข็งมาไว้ที่ช่องเย็นธรรมดา ทิ้งไว้ข้ามคืนอาหารก็จะนิ่มพร้อมทานในตอนเช้า
- วิธีที่ 2 นำถุงอาหารออกมาแช่น้ำอุณหภูมิปกติ ประมาณ 5-10 นาทีจนละลาย เปลี่ยนน้ำบ่อยๆ ก็จะช่วยให้อาหารละลายได้เร็วขึ้น
** เราไม่แนะนำให้ละลายอาหารโดยใช้ความร้อนหรือไมโครเวฟ เพราะอาหาร BARF ที่สุกแล้วอาจย่อยยากสำหรับน้องๆ หากมีความจำเป็นจริงๆ โปรดเลือกฟังก์ชั่น "ละลายน้ำแข็ง" บนไมโครเวฟของคุณเพื่อละลายอาหารของเรา
ควรให้กินในปริมาณเท่าไหร่ต่อมื้อ?
คุณสามารถคำนวณและอัพเดทปริมาณการทานตามอายุ น้ำหนัก และระดับกิจกรรมของสัตว์เลี้ยงของคุณได้เองโดยใช้โปรแกรมการคำนวณของเรา https://th.houndorigin.com/feeding ปริมาณที่คำนวณได้เป็นปริมาณแนะนำที่ค่อนข้างแม่นยำ แต่อย่างไรก็ตาม การทานของสุนัขอาจแตกต่างออกไปจากนี้ตามความต้องการเฉพาะตัว เช่น ระบบเผาผลาญ สิ่งแวดล้อม การเลี้ยงดู สรีระ หรือกิจกรรมในแต่ละวัน คุณพ่อคุณแม่สามารถปรับปริมาณการทานอาหารเองได้ตามความเหมาะสม
* ลูกสุนัขอายุต่ำกว่า 1 ปี ควรมีการปรับปริมาณการทานตามน้ำหนักและอายุทุก 1 - 2 เดือน
ต้องใส่ท็อปปิ้ง ผัก ผลไม้ หรืออื่นๆ เพิ่มเติมไหม?
ไม่จำเป็นต้องเติมท็อปปิ้งใดๆ เนื่องจากสูตรอาหาร BARF ของ Hound Origin มีความสมบูรณ์และสมดุลในด้านโภชนาการ ครอบคลุมสารอาหารหลักและสารอาหารรองที่จำเป็นทั้งหมดกว่า 40 ชนิด คุณพ่อคุณแม่สามารถนำอาหารออกจากถุงให้น้องทานได้เลย แต่หากต้องการเพิ่มท็อปปิ้งบ้างเล็กน้อยเป็นครั้งคราวเพื่อให้น้องๆ ได้ตื่นเต้นกับการทานมากขึ้นก็ได้เช่นกัน
อาหาร BARF เก็บในช่องแช่แข็ง/แช่เย็น ได้นานแค่ไหน?
อาหาร BARF ของเราสามารถเก็บไว้ในช่องแช่แข็งได้นานถึงหนึ่งปีเต็มนับจากวันที่ผลิต คุณสามารถดูวันที่ผลิตและวันหมดอายุได้ที่หลังซองอาหาร หลังจากเปิดซองอาหารแล้ว สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาได้ 2 วันและไม่เกิน 3 วันอย่างปลอดภัย
ทานบาร์ฟแล้วต้องถ่ายพยาธิบ่อยแค่ไหน?
Hound Origin ดำเนินการผลิตตามมาตรฐานสูงสุดของกรมปศุสัตว์และอุตสาหกรรมอาหารสด เพื่อให้แน่ใจว่าอาหารดิบสดของเรานั้นปราศจากพยาธิและแบคทีเรียร้ายที่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง อย่างไรก็ตามสัตว์เลี้ยงของคุณอาจสัมผัสกับแบคทีเรียหรือพยาธิได้เสมอขณะเล่นนอกบ้าน ขุดดินในสนาม หรือมีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ คุณสามารถถ่ายพยาธิให้กับสัตว์เลี้ยงของคุณได้ตามปกติ เราขอแนะนำให้คุณถ่ายพยาธิสัตว์เลี้ยงของคุณไม่เกิน 3 - 4 ครั้งต่อปี โดยมีระยะห่างของรอบการถ่ายพยาธิอย่างน้อย 3 เดือน