Description
Lalvin yeast ยีสต์หมักไวน์คุณภาพสูง จากประเทศแคนาดา เริ่มต้นพัฒนายีสต์แห้งหมักไวน์ตั้งแต่ปี 1990 โดยเน้นยีสต์ที่มีลักษณะเฉพาะตัว ศึกษาและคัดแยกเจาะจงแต่ละสายพันธุ์ พัฒนาสายพันธุ์ยีสต์ที่มีคุณภาพสูงมี ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ทดสอบคุณภาพอย่างเข้มงวดก่อนออกจากโรงงาน และสามารถตรวจสอบคุณภาพย้อนหลังได้สามปีหลังจากการผลิต
LALVIN 71B NARBONNE
- ยีสต์สูตรนี้ถูกออกแบบมาเพื่อหมักไวน์ผลไม้โดยเฉพาะ โดยไวน์ที่ได้จะมีกลิ่นผลไม้ที่สดใหม่ แม้ผ่านกระบวนการหมัก fermaentation
- นอกจากนี้ยังสามารถเผาผลาญกรด malic ได้ดี มากถึง 20-40% ทำให้เป็นทางเลือกที่ดี สำหรับน้ำผลไม้ที่มีกรดสูง การเผาผลาญกรดมาลิก จะทำให้ไวน์มีรสชาตินุ่มมากขึ้น *จึงมักนิยมใช้ในการหมักไวน์ผลไม้ที่มี กรดมาลิก สูง ตัวอย่าง เช่น กล้วย แตงโม ลิ้นจี่ เชอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ พีช *
- ในสหรัฐอเมริกา นิยมใช้ 71B ในการหมักไวน์องุ่นพื้นเมืองตอนเหนือ ที่มีกรดมาลิกสูง ผลลัพธ์ ทำให้ได้ไวน์ที่มีรสชาตินุ่มนวลและมีกลิ่นหอม หมักไวน์ได้เร็ว * นอกจากองุ่นพื้นเมืองแล้ว ผลไม้ที่เขตร้อนที่มีรสหวาน จะทำให้ได้ไวน์ ที่มีลักษณะดังกล่าว คือ มีกลิ่นหอมของผลไม้และรสชาตินุ่มนวล *
- โดยสูตรนี้ถูกใช้โดยผู้ผลิตไวน์ชั้นนำสำหรับไวน์ เช่น vin nouveau
แหล่งกำเนิด
ยีสต์สายพันธุ์นี้ได้รับการคัดเลือกไว้ใช้กันในเมืองนาร์บอนน์, ที่สถาบันวิจัยการเกษตรแห่งชาติ (Institut national de recherche en agriculture - INRA) โดย J. Maugenet การคัดเลือกสายพันธุ์ยีสต์ของที่นั่นมุ่งเน้นไปที่การคัดแยกยีสต์ที่จะก่อให้เกิดรสผลไม้ที่สดชื่นในไวน์ ซึ่งจะคงอยู่ต่อเนื่องยาวนานหลังกระบวนการหมัก
คุณสมบัติเชิงศาสตร์การทำไวน์และการนำไปใช้
ยีสต์สายพันธุ์ 71B นั้นเป็นยีสต์แบบตั้งตัวเร็ว (Rapid starter) ซึ่งมีกระบวนการหมักที่คงที่และครบสมบูรณ์ที่ย่านอุณหภูมิระหว่าง 15 ถึง 30 องศาเซลเซียส (59 ถึง 86 องศาฟาเรนไฮต์) ทั้งยังมีความสามารถในการย่อยสลายกรดมาลิก (Malic acid) ได้ในระดับสูง (20 ถึง 40 เปอร์เซ็นต์) นอกเหนือจากความสามารถในการผลิตไวน์ที่มีรสนุ่มนวลกลมกล่อมยิ่งกว่าซึ่งมักจะบ่มตัวได้อย่างรวดเร็วแล้ว, ยีสต์สายพันธุ์นี้ยังมีระดับการสกัดฟีนอลออกมาในปริมาณที่มากเกินไปนัก และดังนั้นจึงช่วยให้ระยะเวลาการบ่มไวน์สั้นลงอีกด้วย
ยีสต์สายพันธุ์ 71B ถูกนำมาใช้โดยนักผลิตไวน์มืออาชีพ สำหรับการผลิตไวน์ที่ดื่มตอนอายุน้อยๆ เป็นหลัก, ยกตัวอย่างเช่น, ไวน์นูโว (vin nouveau) และมีการค้นพบว่ายีสต์สายพันธุ์นี้เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับใช้ในการผลิตไวน์ชมพูและไวน์หวาน สำหรับองุ่นที่เจริญเติบโตขึ้นในภูมิภาคที่ดินมีความเป็นกรดสูง, ความสามารถในการช่วยย่อยสลายกรดมาลิกได้บางส่วนมีส่วนช่วยให้ไวน์มีรสชาตินุ่มนวลมากยิ่งขึ้น ยีสต์สายพันธุ์ 71B นั้นยังมีความสามารถในการสร้างเอสเตอร์ (Ester) ได้ในระดับหนึ่ง และสามารถสร้างแอลกอฮอล์ได้ในปริมาณที่ค่อนข้างสูง, ทำให้ยีสต์สายพันธุ์นี้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการหมักน้ำองุ่นเข้มข้น
ยีสต์สายพันธุ์นี้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับไวน์ชมพูและไวน์หวาน, ไวน์นูโวและไวน์แดงดื่มตั้งแต่อายุน้อยๆ ทั้งยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการหมักไวน์จากองุ่นที่เก็บเกี่ยวในช่วงปลายของฤดูกาล
คุณสมบัติ
Saccharomyces cerevisiae cerevisiae
Sensitive to the competitive factor K2
Alcohol tolerance up to 14%
Short lag phase
Moderate fermentation rate
Fermentation temperature range: 15°C to 30°C
Very low urea production
Very low requirement in assimilable nitrogen
High requirement of survival factors in O2-deficient musts
High amyl-ester production
Average production of volatile acidity
Low SO2 production
Facilitates malolactic fermentation
ปริมาณการใช้
White, Red and Rose winemaking: 25 to 40 g/hl
ใช้ 1 ซอง(5กรัม) ต่อการหมักไวน์ 1 - 6 แกลลอน (4.5 - 23 ลิตร)
ขนาดอาจปรับเปลี่ยนตามปริมาณน้ำตาล และผลไม้ตั้งต้นที่ใช้ในการหมักไวน์
แนะนำ
· สำหรับการหมักไวน์ที่มี ผลไม้เขตร้อนกึ่งรสหวาน , ผลไม้กลุ่ม berry , องุ่น
· ความทนต่อแอลกอฮอล์ 14%
· อุณหภูมิที่เหมาะสำหรับการหมักคือ 59 - 86°F (15° to 30°C)
วิธีใช้งาน การ Rehydrate ยีสต์ก่อนการหมัก
ใช้น้ำ 50 ml ณ อุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่น (40-43 C) เทผงยีสต์ ทำการคนให้ยีสต์ละลาย และวางทิ้งไว้ 15 - 20 นาที
สอบถามเพิ่มเติม
Line @eateatcheese [https://line.me/R/ti/p/%40eateatcheese ]