Description
สรรพคุณของเห็ดหอม นั้นมีมากมายเรียกได้ว่านับไม่ถ้วนเลยจริง ๆ ค่ะ จะให้พูดตอนนี้เห็นทีจะพูดไม่หมดแน่น ๆ เลยค่ะ แต่ยังไงก็ตามเราก็ได้รวบรวม
สรรพคุณของเห็ดหอม และ ประโยชน์ของเห็ดหอม มาให้คุณทุกคนได้ลองอ่านกันค่ะ ใครที่ไม่ชอบทานเห็นหอมเมื่อได้รู้ สรรพคุณของเห็ดหอม ที่มาก มายต้องหันมารับประทานเห็ดหอมอย่างแน่นอนเลยค่ะ ว่าแล้วเราก็ไม่ต้องลอช้ากันเลยดีกว่าค่ะเรามาดูสรรพคุณของเห็ดหอมและประโยชน์ของเห็ด หอมกันเลยค่ะ
ประโยชน์ / สรรพคุณของเห็ดหอม เทศกาลกินเจและอาหารเจส่วนใหญ่ที่เห็นจะมี "เห็ดหอม" เป็นส่วนประกอบแทบทั้งนั้น เห็ด หอมมีชื่อทาง วิทยาศาสตร์ว่า Lentinus edodes ภาษาจีนเรียกว่า "เฮียงคุ่ง" หรือ "เฮียงสิ่ง" ส่วนญี่ปุ่นเรียกเห็ดหอมว่า ชิตาเกะ (Shi-ta-ke) ชาวเอเชีย เชื่อกันมาแต่ โบราณแล้วว่าเห็นหอมเป็นยาอายุวัฒนะทำให้ร่างกายแข็งแรงช่วยชะลอความชราได้ คนจีนและคนญี่ปุ่นจึงนิยมรับประทานกันมาก ย้อนไปในศตวรรษที่ 14 มีบันทึกไว้ว่าแพทย์จีนใช้เห็ดหอมปรุงเป็นยาอายุวัฒนะทำให้เลือดลมดี รักษาโรคหวัด โรคหัวใจ แก้พิษงู และต้านการเติบโตของเนื้อร้าย ต่อมาในค.ศ.1970 มีงานวิจัยหลายชิ้นในญี่ปุ่นพบว่า เห็ดหอมมีกรดอะมิโนที่ชื่อว่า อิริตาดีนีน (eritadenine) ช่วยให้ไตย่อยโคเลสเตอรอลได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ระดับ โคเลสเตอรอลในเลือดลดลงได้อย่างน่าอัศจรรย์และมีสารเลติแนน (lentinan) ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพในการต่อสู้ยับยั้งหรือป้องกันการเติบโตของเซลล์เนื้องอกต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย สอดคล้องกับที่สถาบันทางโภชนาการของญี่ปุ่นได้ทำการทดลองในเรื่องนี้และพบ ว่า หญิงสาวที่ทานเห็ดหอมสด 90 กรัม ทุกวันเป็นเวลา 1 อาทิตย์จะทำให้โคเลสเตอรอลในเลือดลดลง 12% ถ้ารับประทานเป็นเห็ดหอมแห้ง 9 กรัมต่อวัน โคเลสเตอรอลลดลง 7% เมื่อทดลองกับคนอายุ 60 ปี พบว่าโคเลสเตอรอลลดลง 9% หลังจากทานเห็ดหอม 1 อาทิตย์
ขณะที่นักวิจัยสมัยใหม่ซึ่งได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับเห็ดหอมก็พบว่า เห็ดหอมช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ต้านโรคมะเร็งและโรคร้ายต่าง ๆ จาก
เชื้อไวรัส และจากการวิเคราะห์ของนักโภชนาการยังพบด้วยว่า เห็ดหอมมีสารเออร์โกสเทอรอล (Ergosterol) อยู่มาก โดยเมื่อร่างกายได้รับแสงอัลตร้า
ไวโอเลตหรือรังสียูวีจากดวงอาทิตย์กลไกรังสียูวีจะไปเปลี่ยนสารเออร์โกสเทอรอลในผิวหนังให้เป็นวิตามินดี ซึ่งจะช่วยให้กระดูกและกล้ามเนื้อแข็งแรง
ป้องกันโรคกระดูกผุ โรคโลหิตจางได้
ส่วนที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติของญี่ปุ่นก็ได้ทำการวิจัยสารที่สกัดจากเห็ดหอมพบว่า มีสารที่สามารถต่อต้านเนื้องอกและมะเร็ง คือสารเลนติแนนที่มี เปอร์เซ็นต์การยังยั้ง 80.7% และยังพิสูจน์ว่า สารเลนติแนน เป็นตัวที่สามารถกระตุ้นให้ร่างกายเกิดภูมิต้านทานได้ดี ได้มีการทดลองนำเห็ดหอมมาสกัด พบว่าในเห็ดหอมให้น้ำตาลโมเลกุลขนาดใหญ่ (mega-sugar) ที่เรียกว่า เบต้ากลูแคนส์ (beta-glucans) ถึง 2 ชนิดได้แก่ เลนติแนน และ LEM (Lentinulaedodes mycelium) ซึ่งช่วยทำหน้าที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันต่อสู้กับการติดเชื้อและชะลอการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง ซึ่งในการทดลองให้สาร เลนติแนนกับผู้ป่วยมะเร็งร่วมกับทำเคมีบำบัดก็พบว่า ก้อนมะเร็งมีขนาดลดลงและอาการข้างเคียงจากการทำเคมีบำบัดก็เกิดขึ้นน้อยลงด้วย
ล่าสุดทีมวิจัยในญี่ปุ่นกำลังมองหาความเป็นไปได้ในการใช้ LEM ที่ได้จากเห็ดหอมมาบำบัดผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) และยังพบอีกว่า สารสกัด จากเห็ดหอมอีกตัวหนึ่ง ชื่ออิริตาดีนีน (eritatenine) เป็นตัวช่วยลดปริมาณไขมันในเลือดและระดับโคเลสเตอรอลให้กับร่างกาย นอกจากนี้เห็ดหอมยังมีวิตามิน B2 (riboflavin) และวิตามิน D มากเป็นพิเศษ รวมทั้งแร่ธาตุอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อต่างกายอีกมากมาย โดยสรุปแล้วเห็ดหอมไม่เพียงแต่มีรสชาติหวานหอมชวนรับประทานเท่านั้น แต่ยังมีสรรพคุณมากมายในทางเป็นยารักษาและป้องกันโรคสารพัด ทั้งจากโรคต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้วรวมถึงเป็นยา บำรุงกำลังชั้นเยี่ยม แก้อาการเหนื่อย อ่อนเพลีย บรรเทาอาการไข้หวัด ทำให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี ไม่มีอาการท้อง ผูก บรรเทาอาการปวดเมื่อย ช่วยรักษาโรคหอบหืด ความดัน ไอ ลดความเครียด บำรุงสมอง ป้องกันหลอดเลือดแดงแข็งตัว บำรุงระบบประสาท ช่วยให้ หลับง่าย บำรุงปอดและหลอดลม นอกจากนี้ยังใช้บำบัดอาการวิงเวียนศีรษะในผู้หญิงได้ด้วย