สาหร่ายเกลียวทอง
฿400

Description

สาหร่ายเกลียวทองกระปุกละ 400 -.บรรจุ 400 เม็ดสาหร่ายเกลียวทอง โภชนะบำบัดเพื่อการรักษาสาหร่ายเกลียวทอง มีคุณลักษณะโดดเด่นต่อร่างกายhttps://m.facebook.com/.../permalink/5654821077877108/ที่สำคัญรวมแล้ว 5 ประการด้วยกัน คือ1. สร้างภูมิร่างกายให้แข็งแรง2. ลดไขมันโคเลสเตอรอลในเลือด และทำให้ระบบหัวใจและการไหลเวียนของเลือดอยู่ในสภาพปกติ3. ให้การย่อยอาหารสมบูรณ์ และระบบทางเดินอาหารทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ4. กระตุ้นให้ร่างกายกำจัดพิษและของเสีย5. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งและทำให้การต้านอนุมูลอิสระของร่างกายเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นในระยะเวลา30 ปีที่ผ่านมา ประชาชนทุกมุมโลกได้พูดถึงความมหัศจรรย์ของประโยชน์ในการบริโภคสาหร่ายเกลียวทอง หรือ สไปรูลิน่า (Spirulina) ทุกคนต่างได้รับประสบการณ์ที่ดีนำมาเล่าต่อๆกันไป อีกทั้งยังยอมรับว่า การกินสาหร่ายสไปรูลิน่าช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานโรค ช่วยในการควบคุมน้ำหนักตัว ฯลฯ สาหร่ายสไปรูลิน่าเสริมสร้างสุขภาพในทุกกลุ่มอายุ ตั้งแต่คนแก่จนถึงเด็กๆ ผู้สูงอายุ พบว่า สาหร่ายย่อยง่าย นักกีฬารู้สึกว่ากินแล้วมีกำลังเล่นกีฬาได้ทน คนเจ็บจะรู้สึกฟื้นตัวและฟื้นไข้อย่างเห็นได้ชัดเจน ฯลฯ“สาหร่ายเกลียวทอง" เป็นสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า "Spirulina plantensis" เป็นพืชที่เกิดขึ้นเมื่อ 3,500 ล้านปีมาแล้ว เป็นสาหร่ายหลายเซลล์ขนาดเล็ก ที่มองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็น เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นล่างสุดของห่วงโซ่อาหารคุณสมบัติที่ควรกล่าวถึง สำหรับสาหร่ายสไปรูลิน่า มีสารอาหารครบถ้วนจนได้รับสมญาว่า สาหร่ายสไปรูลิน่า คือ อาหารที่สมบูรณ์ แต่คุณค่าที่เหนือกว่าอาหารเสริมทั้งหลาย และเป็นจุดเด่น 6ประการ ที่ควรกล่าวถึงเพื่อเป็นการสรุปให้คือ1. สาหร่ายสไปรูลิน่ามีกรดไขมัน แกมม่า ไลโนเลนิกในปริมาณสูง เป็นรองแต่น้ำนมแม่เพียงอย่างเดียว กรดไขมัน GLA เป็นสารตั้งต้นของฮอร์โมนพรอสต้าแกลนดิน กรดไขมัน GLA ทำให้ไขมันคลอเลสเตอรอลในเลือดลดลง เป็นผลให้ชั้นในของหลอดเลือดไม่มีฝ้าไขมันจับ เลือดไหลเวียนสะดวก หัวใจไม่ขาดเลือดมาหล่อเลี้ยงและส่งผลให้ความดันโลหิตปกติ2. เม็ดสีน้ำเงินไฟโคไซยานิน มีอยู่แต่ในสาหร่ายสไปรูลิน่าเท่านั้น และมีคุณสมบัติที่วงการแพทย์ให้ความสนใจ เม็ดสีนี้ได้พัฒนาตัวเองมาถึง 3,600 ล้านปี มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ และเพิ่มความต้านทานให้ร่างกาย เป็นความหวังของผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง โรคเอดส์ และเป็นความหวังว่าจะเข้ามาแทนที่การใช้ยาปฏิชีวนะในคนได้ต่อไป3.สาหร่ายสไปรูลิน่ามีวิตามินบี12 ซึ่งโดยทั่วไปวิตามินนี้ จะมีในเนื้อสัตว์เท่านั้น ไม่มีในพืช วิตามินบี12 จะช่วยในการผลิตเม็ดเลือดแดง และบำรุงระบบประสาท ช่วยให้กรดนิวคลีอิกสามารถซ่อมหรือสร้าง DNA นักมังสวิรัติไม่กินเนื้อสัตว์จึงขาดวิตามินบี12 ง่ายมาก นอกจากจะกินสาหร่ายสไปรูลิน่าหรือซื้อยาบำรุงวิตามินบี12มาเป็นอาหารเสริมในโครงสร้างของวิตามินบี12ยังมีธาตุโครเมียมอยู่ด้วย ซึ่งเป็นตัวทำให้การทำงานของฮอร์โมนอินซูลินเผาผลาญน้ำตาลได้ดีขึ้น4. สาหร่ายสไปรูลิน่ามีธาตุเหล็กสูง ซึ่งธาตุเหล็กนี้อยู่ในไฟโคไซยานิน มีหน้าที่ไปสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ธาตุเหล็กในสาหร่ายจะดูดซึมและนำไปใช้ได้ง่าย สาหร่ายสไปรูลิน่าจึงเหมาะกับผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง และผู้หญิงวัยเจริญพันธ์ซึ่งต้องเสียเลือดในรอบเดือน เหล็กยังทำหน้าที่เปลี่ยนเบต้าแคโรทีนให้เป็นวิตามินเออีกด้วย5. เม็ดสีเหลืองส้ม คือ กลุ่มของคาโรทีน ซึ่งตัวที่สำคัญคือ เบต้าแคโรทีน มีปริมาณสูงในสาหร่ายสไปรูลิน่า มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ โดยจะทำงานร่วมกับวิตามินอีและธาตุซีลีเนียม ทำให้เกิดอำนาจในการต้านอนุมูลอิสระสูงมาก สาหร่ายจึงเหมาะกับการใช้อาหารเสริมเพื่อป้องกันโรคเสื่อมทั้งหลาย ชะลอความแก่ และ เบต้าแคโรทีนยังเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ ซึ่งสำคัญต่อสายตา การเห็น ผิวพรรณ และภูมิต้านทาน6. สังกะสีในสาหร่ายสไปรูลิน่ามีค่อนข้างสูง ในอาหารปกติจะมีธาตุสังกะสีไม่ถึงครึ่งหนึ่งของความต้องการในแต่ละวัน ดังนั้นการกินสาหร่ายเป็นอาหารเสริมจึงทำให้ร่างกายไม่ขาดธาตุสังกะสี สังกะสีสำคัญในฐานะทำหน้าที่เป็นตัวเร่งเอนไซม์ประมาณ 140 ชนิดในร่างกายให้ทำงาน และสังกะสีนอกจากร่วมต้านอนุมูลอิสระด้วยแล้ว ยังมีความสำคัญต่อการแบ่งตัวของเซลล์ เซลล์ที่แบ่งตัวเร็วจะต้องมีสังกะสีพอเพียง จึงพบมากในอวัยวะสืบพันธุ์ การเจริญพัฒนาทางเพศ (ชายใช้สังกะสีมากกว่าหญิง) เม็ดเลือดแดง ตับ เป็นต้น ถ้าขาดสังกะสีแผลและการอักเสบจะหายช้า ดังนั้นนักกีฬาจึงนิยมกินสาหร่ายสไปรูลิน่าเพราะทำให้ฟื้นตัวเร็วจากหนังสือ Food Of The Futureโดย ศ.ดร.นพ สมศักดิ์ วรคามิน คุมระดับน้ำตาลในเลือด บำรุงสมอง ฟื้นฟูสภาพตับและไต เพิ่มภูมิคุ้มกันเพิ่มเม็ดเลือดแดง/เกล็ดเลือด บรรเทากรดไหลย้อนแหล่งสารอาหาร และโปรตีนชั้นยอดเคล็ดลับสุขภาพดี ที่หาซื้อได้ง่ายๆ