Description
Bios Life E (Smart E)
ด้วยพลังของมัทชะผสมกับแอลทีนีนและโคลีน ซึ่งช่วยเพิ่มพลังงานและในเวลาเดียวกันทำให้เกิดความสงบ ผ่อนคลายและมีสมาธิ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วย ธาตุที่ช่วยเพิ่มพลังเมตาบอลิค, อิเลคโทรไลท์ที่สำคัญ และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ และให้ปริมาณโอแรค(ORAC) มากถึง 2500 umol TE"
เอกลักษณ์หนึ่งเดียวของไบออสไลฟ์อี (Bios Life E)
กรรมสิทธิ์และสิทธิบัตรใน Chi-Oka Matcha Blend ซึ่งเป็นส่วนผสมพื้นฐานใน ไบออสไลฟ์ อี (Bios Life E) ซึ่งช่วยเพิ่มพลังงานและในเวลาเดียวกันทำให้เกิดความสงบ ผ่อนคลายและมีสมาธิ ซึ่งเปรียบเสมือนความสงบและสมาธิของนิกายเซนในเครื่องดื่มให้พลังงาน อยู่ในตำรา การอ้างอิงการจ่ายยาของแพทย์
https://www.pdr.net/full-prescribing-information/UNICITY-Bios-Life-E--Unicity-Matcha--matcha-3763
คุณประโยชน์ :
ชิโอกะมัทฉะกรีนทรี ผสมอินูลิน แอลคาร์นิทีน รสแอปเปิ้ล
> ชามัทฉะ มี สารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก
>ใช้เพื่อเพิ่มระดับพลังงานให้ร่างกายตื่นตัว พร้อมทุกกิจกรรมปรับอารมณ์ให้นิ่ง มีสมาธิสูง
>ล้างสารพิษ เสริมภูมิต้านทานให้ร่างกาย
>เพิ่มการเผาผลาญพลังงาน เมตาบอลิซึม
>ลดไขมันแทรกกล้ามเนื้อในผู้ชาย กล้ามคมชัด
>ลดเซลลูไลท์ในผู้หญิง ไม่เป็นผิวมะกรูดที่ต้นขา ทำให้ผิวพรรณแข็งแรง
>ลดคลอเลสเตอรอล และไขมันเลว
>ป้องกันมะเร็งทุกระบบในร่างกาย
>ทานก่อนขับรถเดินทางไกล ทำงานนานหลายชั่วโมงติดต่อกัน
>ลดอาการการเมื่อยล้า และอ่อนเพลีย
เพิ่มพลังงาน Bios Life E ให้การเพิ่มพลังงานอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา 3 - 4 ชั่วโมง ก่อนที่ระดับ พลังงานจะลดลง อย่างช้า ๆ สิ่งที่เครื่องดื่มให้พลังงานอื่น ๆ ไม่ได้คำนึงถึงก็คือ สมองต้องการพลังงานมากกว่า อวัยวะส่วนอื่น ๆ ภายในร่างกาย Bios Life E ให้พลังงานที่ร่างกายและสมองของ เรา ต้องการอย่างเพียงพอสำหรับการทำงานในระดับสูงสุด พลังงานฉลาด (Smart Energy)
เพิ่มสมาธิ มัทฉะ (ผงชาเขียว) ใน Bios Life E มี กรดอะมิโนที่พบได้เฉพาะในชาเขียวเป็นจำนวนมาก กรดอะมิโนคือ แอลทีนีนซึ่งพบมากในมัทฉะ ช่วยให้รู้สึกสงบและผ่อนคลาย มีการค้นพบว่าแอลทีนีน ช่วยในการเพิ่มของคลื่นอัลฟ่า ซึ่งคลื่นอัลฟ่ามีผลต่อความรู้สึกสงบผ่อนคลายและมีสมาธิ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เราจะได้จากการทำสมาธิ เล่นโยคะ และการผ่อนคลายอารมณ์แบบลึก
อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ Bios Life E ให้ผลในการฟื้นฟูร่างกายเป็นสองเท่า ด้วยส่วนผสม ที่ไม่สามารถหาได้ในเครื่องดื่มให้พลังงานอื่น มีส่วนผสมของชามัทฉะผสมกับทับทิมและบลูเบอรี่ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง
ดูแลสมดุลของอิเลคโตรไลท์ Bios Life E มี ส่วนผสมที่เหมาะสมของ โพแทสเซียม แมกนีเซียม และโซเดียม เพื่อดูแลสมดุลของระบบภายในร่างกาย
เพิ่มอัตราการเผาผลาญ ยังเพิ่มอัตราการเผาผลาญให้กับร่างกาย ซึ่งเป็นพลังงานพื้นฐานที่ใช้ในกระบวนการหายใจ การสูบฉีดโลหิต และอื่น ๆ Bios Life E ช่วยเผาผลาญไขมันโดยช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลลอรี่ในระหว่างการดำรงชีวิตประจำวันมากขึ้น Bios Lite E ยังให้พลังงานที่จำเป็นในการฟื้นฟูหลังการออกกำลังกาย
วิธีการรับประทาน
ชง Bios Life E 1 ซอง ผสมน้ำ 250-300 มิลลิลิตร เขย่าให้เข้ากันแล้วดื่ม
ไม่ควรรับประทานเกินวันละ 3 ซอง
ควรดื่มน้ำมาก ๆ
ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคไต
Key Ingredients
Chi-Oka Matcha Green Tea, Malto-Dextrin, Sugar, Fructose, Green Coffee Bean Extract, Soy lecithin, Promegranate Extract, Citric Acid, L-Theanine, inulin, Blueberry Powder, Natural & Artificial Flavors (Sour Apple), L-Carnitine, Potassium Chloride, Sodium Chloride, Grape Seed Extract, Ascorbic Acid, Niacinamide, Sucralose, D-Calcium Pantothenate, Riboflavin, Thiamine HCI, Cyanocobalamin and Pyridoxine HCI
เหมาะกับใครบ้าง
1. นักกีฬา
2. นักเรียน
3. คนที่ชอบออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง ดื่มก่อนออกกำลังกาย 10-15 นาที
4. คนทำงาน / ติดกาแฟ / เครียด
5. คนที่ต้องการสมาธิ
6. คนที่ต้องการลดน้ำหนัก ลดไขมันสะสม
สาระอื่นๆ
ชาเขียว คือชาที่ได้จากต้นชา โดยเป็นชาที่ไม่ได้ผ่านการหมักแต่อย่างใด เพียงนำใบชามาผ่านความร้อน เพื่อให้ใบชาแห้งอย่างรวดเร็ว โดยความร้อนที่ไม่สูงมาก หรือใช้วิธีอบไอน้ำ ในระยะเวลาสั้น ๆ แล้วนำไปอบแห้ง เพื่อยับยั้งเอนไซม์ จนทำให้ไม่เกิดการสลายตัว จึงทำให้ใบชามีสีเขียว รักษาความสดไว้ได้
ชาเขียวมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าชาหมัก และยังมีสาร EGCG ประมาณ 35-50% มากกว่าชาอูหลง และชาดำ
สารอาหารสำคัญจากชาเขียว
สารอาหารสำคัญที่พบได้ในชาเขียว ได้แก่ วิตามินบี วิตามินซี วิตามินอี กรดอะมิโน และสารในกลุ่ม xanthine alkaloids คือ คาเฟอีน (caffeine) และธิโอฟิลลีน (theophylline) ซึ่งสารเหล่านี้คือสารที่มีฤทธิ์ในการกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง และยังมีสารที่อยู่ในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ที่เรียกกันว่า คาเทชิน ซึ่งสารคาเทชินนั้นสามารถแยกออกเป็น 5 ชนิดด้วยกัน นั่นก็คือ
- gallocatechin (GC),
- epicatechin (EC),
- epigallocatechin (EGC),
- epicatechin gallate (ECG),
- epigallocatechin gallate (EGCG) ซึ่งสามารถพบสารคาเทชินได้มากและมีฤทธิ์ที่ทรงพลังที่สุดในชาเขียว ที่เราเรียกกันว่า สารอีพิกัลโลคาเทชินกัลป์เลตที่เป็นสารที่มีความสำคัญในการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
คาเทชิน (Catechins) คือสารออกฤทธิ์สำคัญที่อยู่ในชาเขียว(และในใบชาชนิดต่างๆ) ประกอบไปด้วย Epigallocatechin-3-gallate (EGCG), Epicatechin-3-gallate, Epicatechin, Epigallocatechin, Gallocatechin gallate and Catechin ในทั้งหมดนี้ สารที่มีมากที่สุดคือ Epigallocatechin-3-gallate ซึ่ง EGCG จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในชาเขียว และมีปริมาณมากที่สุด มีความแรงของการต้านอนุมูลอิสระมากกว่า วิตามินซี และวิตามินอี 25-100 เท่า จากผลการศึกษาวิจัยคุณสมบัติของชาเขียวพบว่า ชาเขียว มีประโยชน์ต่อสภาวะทางสุขภาพร่างกายหลายประการเช่น
EGCG มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพ ช่วยในการป้องกันการเกิดโรคท่อเลือดแดงและหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดอุดตัน (Coronary Artery Disease) จากการวิจัยพบว่า ชาเขียวสามารถช่วยลดคอเรสเตอรอลรวม และเพิ่มปริมาณคลอเรสเตอรอลชนิดดี(HDL) สารคาเทชิน (Catechins) สามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ สามารถช่วยทำลายเซลล์มะเร็งและหยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้
ทั้งนี้ ชาเขียวมีผลลัพธ์ทางการแพทย์ในเชิงบวกต่อการรักษามะเร็งประเภทต่อไปนี้ เช่น มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งทรวงอก มะเร็งรังไข่ มะเร็งปลายลำไส้ใหญ่หรือไส้ตรง มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งปอด มะเร็งตับอ่อน มะเร็งต่อมน้ำอสุจิ มะเร็งผิวหนัง มะเร็งกระเพาะอาหาร ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด สามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวานประเภทหนึ่ง และชะลอการเกิดโรคเบาหวาน หรือหากเป็นโรคเบาหวานแล้วจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลกลูโคสในร่างกายให้อยู่ในภาวะสมดุล
สารโพลีฟีนอลส์ (Polyphenals) ช่วยเพิ่มแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ จึงสามารถช่วยล้างพิษและกำจัดพิษในลำไส้ได้ ช่วยในการป้องกันตับจากความเสียหายจากสารพิษต่างๆ เช่น แอลกอฮอลล์ ชาเขียว ช่วยในการเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกายให้เป็นพลังงาน ลดการสะสมของไขมันหน้าท้อง
คาเทชินเป็นอาวุธสำคัญของธรรมชาติที่เข้าไปทำหน้าที่ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งในร่างกาย คาเทชินที่มีอยู่ในชาเขียวสามารถพบได้ในหลายรูปแบบ แต่รูปแบบที่สำคัญ คือ EGCG (Epigallocatechin gallate) EGCG ซึ่งเป็นอาวุธที่เข้าไปช่วยป้องกันปฏิกิริยา “ออกซิเดชั่น” อันเกิดจากเซลล์ในร่างกายทำปฏิกิริยากับออกซิเจนที่สามารถพบได้ในอากาศและปล่อย “สารอนุมูลอิสระ” เมื่อไม่เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ร่างกายจึงไม่ผลิตสารอนุมูลอิสระ สารอนุมูลอิสระนี้เป็นสาเหตุของการเสื่อมเสียต่างๆ เป็นต้นเหตุของความเปลี่ยนแปลงของร่างกายตามอายุที่เพิ่มขึ้น และพบความเชื่อมโยงของสารอนุมูลอิสระที่จะสามารถส่งผลให้เกิดมะเร็งได้
ประโยชน์ของชาเขียว
1. มีส่วนในการรักษาโรคปวดศีรษะไปจนถึงโรคซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี โดยประเทศจีนได้มีการใช้ชาเขียวในการรักษาโรคต่างๆ มาเป็นเวลามากกว่า 4,000 ปีมาแล้ว
2. มีส่วนช่วยแก้หวัด แก้อาการร้อนใน ช่วยในการขับสารพิษ และช่วยขับเหงื่อในร่างกาย
3. ช่วยแก้อาการเมาเหล้า อีกทั้งยังทำให้สร่างเมาได้เป็นอย่างดี
4. มีส่วนช่วยในการทำให้เกิดการเจริญอาหาร
5. มีส่วนช่วยในการเพิ่มจำนวนแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ จึงมีส่วนช่วยในการล้างสารพิษและช่วยกำจัดพิษในลำไส้ได้
6. ช่วยป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในร่างกาย
7. ป้องกันตับจากพิษต่างๆ รวมทั้งโรคชนิดอื่นๆ ที่สามารถเกิดขึ้นกับตับได้
8. มีฤทธิ์ในการต้านอาการอักเสบ ต้านจุลินทรีย์ที่อยู่ในลำไส้ ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส รวมทั้งช่วยต้านเชื้อ Botulinus และ Staphylococcus
9. มีส่วนช่วยในการขับปัสสาวะ และช่วยป้องกันนิ่วในถุงน้ำดีและในไต
10. ช่วยในการห้ามเลือดหรือทำให้เลือดไหลได้ช้าลง
11. มีส่วนช่วยในการป้องกันโรคข้ออักเสบรูมาติก ซึ่งเป็นโรคที่มีอาการอักเสบบวมแดง ส่งผลทำให้ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและข้อต่อ โดยอาการลักษณะนี้มักจะเกิดกับวัยกลางคน
12. ใช้เป็นยาพอกเพื่อรักษาแผลอักเสบ แผลพุพอง ฝีหนอง ไฟไหม้ รวมทั้งช่วยบรรเทาอาการผดผื่นคัน แมลงสัตว์กัดต่อย ใช้เป็นยากันยุง รวมทั้งแก้ผิวร้อนแห้งได้เป็นอย่างดี
13. มีส่วนช่วยในการทำให้เกิดการผ่อนคลายอารมณ์ ช่วยระบายความร้อนที่เกิดกับศีรษะและเบ้าตา จึงทำให้ตาสว่าง ไม่ง่วงนอน แถมยังทำให้หายใจสดชื่นได้อีกด้วย
14. ช่วยแก้อาการท้องร่วง ท้องเสีย และท้องบิดได้เป็นอย่างดี
15. มีส่วนช่วยในการแก้อาการกระหายน้ำ ช่วยในการระบายความร้อนให้ออกจากปอด แถมยังช่วยขับเสมหะได้อีกด้วย
ชาเขียวกับฤทธิ์ทางยา
1. ชาเขียวมีผลต่อการยับยั้งภาวะโรคต่างๆ ซึ่งมีงานวิจัยมากมายที่สนับสนุนว่าชาเขียวนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย
2. มีฤทธิ์ในการลดความอ้วน เนื่องจากมีงานวิจัยได้ระบุว่าสารแคททีชินที่มีส่วนในการลดความอ้วนพบได้มากที่สุดในชาเขียว
3. มีฤทธิ์ในการช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและไขมัน จนส่งผลต่อการควบคุมน้ำหนักของร่างกายได้เป็นอย่างดี
4. มีส่วนช่วยในการลดคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือด
5. มีงานวิจัยทางคลินิกที่ค้นพบว่าชาเขียวมีฤทธิ์ในการต่อต้านการเกิดโรคของหลอดเลือดหัวใจ
มีผลต่อการช่วยลดอัตราเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็งต่างๆ
ประเภทของชาเขียว
เกียวคุโระ (Gyokuro) ชาเขียวเกรดที่ดี เป็นชาเขียวที่เริ่มเก็บตั้งแต่รอบแรกของฤดูเก็บเกี่ยว พวกมันจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและเก็บรักษาอยู่ในร่มก่อนเก็บเป็นเวลาประมาณ 3 อาทิตย์ ใบชาทุกใบที่ได้จึงเป็นยอดอ่อนใบชาคุณภาพ แล้วก็จะดื่มกันเฉพาะในงานพิธีการสำคัญๆ เท่านั้น
เซนฉะ (Sencha) เป็นชาเขียวเกรดรองลงมา เก็บรอบแรกในฤดูเก็บเกี่ยวเหมือนกันแต่ใบชาไม่ได้ถูกเก็บรักษาไว้ในร่ม เจ้าชาเซนฉะนี่แหละที่คนญี่ปุ่นนิยมดื่มกันในชีวิตประจำวัน
บันฉะ (Bancha) ใบชาเกรดต่ำสุด เป็นใบชาแก่ที่เหลือจากการเก็บในรอบก่อนๆ มีรสอ่อน ไม่เข้มข้น นิยมให้บริการฟรีในร้านอาหารทั่วไป
มัทฉะ เป็นผงชาเขียว สมัยก่อนทำจากใบชาชั้นดีอย่างเกียวคุโระเพื่อนำใช้ในพิธีชงชา แต่ต่อมาเมื่อชาเขียวเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นจึงได้เปลี่ยนกรรมวิธีการผลิตมาใช้เซนฉะใบชาระดับรองลงมาแทน มัทฉะเป็นชาที่นิยมนำมาใส่อาหารเพราะสะดวก สีสวย มีกลิ่นหอม และราคาไม่แพง
โคนะฉะ (Konocha)ผลิตจากใบชาส่วนที่เหลือจากกระบวนการผลิตเกียวคุโระหรือเซนฉะ เป็นชารสเข้มที่นิยมเสิร์ฟในร้านซูชิหรือตามร้านอาหารราคาย่อมเยาทั่วไป
โฮจิฉะ (Hojicha) เป็นชาที่ผลิตด้วยความร้อนสูงจนใบชากลายเป็นสีน้ำตาล มีกลิ่นหอม รสชาติจะออกหวานกว่าชาปกติ นิยมดื่มเย็นๆ คลายร้อนหรือเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย